Tip Computer

1. 100 ทิป การใช้งาน Microsoft Office 2010 ภาษาไทย] ฉบับสมบูรณ์


   Download : คลิกที่นี่

**********************************************************

2. สร้าง Outdoor Wireless HotSpot


 สร้าง Outdoor Wi-Fi Hotspot - สร้างความอิสระให้กับผู้ใช้งาน


**********************************************************


3.  10 คำแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้านของคุณ

     ากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีส่วนทำให้การติดตั้งระบบ Wireless Network ตามบ้านได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ถึงแม้อุปกรณ์ Wireless Network ในปัจจุบันจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีการรับส่งสัญญาณให้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งหลายๆท่านก็ยังคงประสบปัญหาสัญญาณอ่อน, การรับส่งสัญญาณช้ากว่าที่ควรจะเป็นอยู่ ดังนั้น Tips & Tricks ในฉบับนี้จึงขอแนะนำวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Wireless Network ของคุณอย่างง่ายๆให้คุณลองนำไปประยุกต์ใช้กันให้เกิดประโยชน์สูงสุดกัน

     1. วางตำแหน่ง wireless router ให้อยู่จุดกึ่งกลางของบ้าน  นื่องจากเสาส่งสัญญาณของ wireless router โดยทั่วไปจะเป็นเสาแบบส่งสัญญาณรอบทิศทาง เป็นรัศมีวงกลมกระจายออกไป ดังนั้นเพื่อให้การรับส่งสัญญาณไร้สายภายในบ้านมีประสิทธิภาพมากที่สุดจึงควรวางตำแหน่งของ wireless router ในบริเวณกึ่งกลางบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากลักษณะการส่งสัญญาณแบบนี้ให้มากที่สุด หากบ้านของคุณเป็นทาวเฮาส์หรือตึกแถวผมแนะนำให้วาง wireless  router ไว้ที่ชั้นกลางของบ้าน จะช่วยให้การรับส่งสัญญาณไร้สายมีประสิทธิภาพสูงสุด

     2. หลีกเลี่ยงการวาง Wireless Router ที่พื้น, ติดกำแพง, หรือใกล้โลหะ  นอกจากให้วาง Wireless Router ไว้บริเวณกึ่งกลางบ้านให้มากที่สุดแล้ว คุณยังควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ที่พื้นการวางไว้ติดชิดฝาผนังบ้านโดยเฉพาะผนังคอนกรีต และการวางไว้ใกล้กับเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ที่เป็นโลหะเช่น ตู้เก็บเอกสารที่ทำด้วยเหล็กไว้ด้วย เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router มีประสิทธิภาพต่ำลงทั้งสิ้น

     3. เปลี่ยนเสาส่งสัญญาณเป็นเสาส่งสัญญาณความถี่สูง หาก Wireless Router ที่คุณใช้เป็นแบบที่สามารถถอดเปลี่ยนเสาส่งสัญญาณได้ ผมขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนเสาส่งสัญญาณความถี่สูงแบบต่อแยกต่างหากจากตัวเครื่องได้ เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มรัศมีในการรับส่งสัญญาณไร้สายให้กว้างไกลมากขึ้นแล้ว ยังสะดวกสบายในการปรับแต่งเคลื่อนย้ายการวางเสาไปไว้ในตำแหน่งที่น่าจะส่งสัญญาณกระจายไปทั่วบ้านได้ดีที่สุดได้อีกด้วย

     4. เปลี่ยนตัวรับสัญญาณไร้สายในคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นแบบ USB Network Adapter
     ในบางกรณีการส่งสัญญาณของ Wireless Router ของคุณอาจมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่การรับสัญญาณที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอาจจะยังไม่ดีพอเองก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นหากเครื่องโน้ตบุ๊กเองเครื่องใช้ตัวรับสัญญาณไร้สาย(Wireless Adapter)แบบ PC Card ที่เสียบติดกับตัวเครื่อง ผมขอแนะนำให้ทดลองเปลี่ยนมาใช้ตัวรับสัญญาณแบบ USB แบบที่มีสายต่อเชื่อมยาวออกจากตัวเครื่องได้ ซึ่งคุณเคลื่อนย้ายตำแหน่งการจัดวางเพื่อให้สามารถรับคลื่นสัญญาณจาก Wireless Router ได้ดียิ่งขึ้น

     5. เพิ่มรัศมีการรับส่งสัญญาณด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ Access Point  เพิ่มเติมสำหรับคุณมีปัญหาไม่สามารถเคลื่อนย้าย Wireless Router จากตำแหน่งเดิมได้ และประสบปัญหาคลื่นสัญญาณอ่อน ผมขอแนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติมอีกหนึ่งจุด ซึ่งเหมือนกับการเพิ่มระยะการรับส่งสัญญาณไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว และนอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มไปในจุดต่างๆได้มากจุดเท่าที่คุณต้องการได้อีกด้วย โดยให้ตั้งตำแหน่งที่เป็นจุดกึ่งกลางของบริเวณที่คุณต้องการขยายรัศมีการรับส่งสัญญาณออกไป

     6. เปลี่ยนคลื่นความถี่ในการส่งสัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีในขณะนี้ คุณอาจจะยังไม่มีงบประมาณสำรองในการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ในบ้านของคุณ คุณอาจจะลองใช้วิธีปรับแต่งช่วงความถี่คลื่นในการรับส่งสัญญาณของ Wireless Router ของคุณเองก็ได้ โดยปกติ Wireless Router จะมีส่วนของ Wireless Channel ให้ทดลองปรับเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ให้คุณเข้าไปปรับค่าในส่วนนี้ให้ค้นหาคลื่นความถี่ที่ดีที่สุดของคุณ ส่วนวิธีการปรับเปลี่ยนให้ศึกษาได้จากคู่มือใช้งาน Wireless Router ของคุณเอง

     7. พยายามลดคลื่นรบกวนการรับส่งสัญญาณไร้สายให้มากที่สุด  อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณไร้สายลดลงก็คือ การมีคลื่นรบกวนจากอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านที่มีการปล่อยคลื่นความถี่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเตาไมโครเวฟ, โทรทัศน์, รวมไปถึงเครื่องรับสัญญาณทีวี ดาวเทียม โดยเฉพาะอุปกรณ์ไร้สายอย่างเช่นโทรศัพท์ไร้สายที่ใช้ระดับคลื่นความถี่ที่ 2.4GHz ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ wireless router จะสร้างคลื่นรบกวนให้การรับส่งสัญญาณเป็นอย่างมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไร้สายอื่นๆที่ใช้คลื่นความถี่ระดับเดียวกันนี้ภายในบ้าน

     8. อัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ของอุปกรณ์ไร้สายของคุณให้ใหม่สุด  โดยทั่วไปบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายจะมีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์สำหรับอุปกรณ์ของตัวเองอยู่เป็นระยะๆอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงการทำงานของตัวเครื่องและรองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์ใหม่ๆได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบางครั้งการอัพเดทยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากยิ่งขึ้นได้อีก
ด้วย ผมจึงขอแนะนำให้คุณเข้าไปดูเว็บของบริษัทผู้ผลิตเป็นระยะๆ หากพบว่ามีอัพเดทใหม่ให้คุณดาวน์โหลดมาติดตั้งทันที เพื่อให้คุณสามารถใช้งานระบบ wireless network ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

     9. พยายามเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆที่ใช้ร่วมกันจากผู้ผลิตรายเดียวกัน  คุณๆคงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าถ้าใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตรายเดียวกันจะทำให้ประสิทธิภาพการงานทำโดยร่วมของระบบ Wireless Network ของคุณจะดีขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นจริงๆด้วย เพราะถึงแม้แต่ละบริษัทผู้ผลิตจะผลิตอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานเดียวกันและสามารถทำงานร่วมกันได้จริง แต่ในบางครั้งบริษัทผู้ผลิตได้มีการเพิ่มเติมเทคโนโลยี่พิเศษเฉพาะของตัวเองเข้าไป ซึ่งจะทำใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดหากใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน การเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆจากผู้ผลิตเดียวกันจึงเป็น
ทางเลือกที่ดีที่สุด

     10. เลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g หรือดีกว่าขึ้นไป  หากคุณพอมีทุนทรัพย์ในการอัพเกรดระบบ Wireless Network เดิมที่ใช้อุปกรณ์ไร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11b ให้คุณเลือกซื้ออุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g เป็นอย่างน้อย ซึ่งมีรัศมีและความเร็วในการรับส่งสัญญาณสูงกว่ามาตรฐานเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับ
มาตรฐาน IEEE 802.11n ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีความเร็วในการรับส่งสัญญาณได้มากกว่ามาตรฐาน
802.11g ถึง 5 เท่าตัว และที่สำคัญสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานเก่าได้อีกด้วย

**********************************************************

4.  9 วิธีเพิ่มความปลอดภัยให้ระบบ Wireless ของคุณ
     ลองมาดู 9 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ Wireless LAN ของคุณกัน
     1. เปลี่ยน username และ password admin ของตัวffsอุปกรณ์คุณจากค่ามาตรฐาน
ผมคิดว่าส่วนใหญ่แล้วตัวอุปกรณ์ที่เราใช้ในการกระจายสัญญาณไร้สายคงจะหนีไม่พ้นตัว all-in-one ที่มีทั้ง ADSL router+Switch+Access Point ครบในตัว หรือบางคนอาจจะใช้เป็นแบบ Wireless
Router เพราะว่ามีโมเด็มอยู่แล้ว หรือไม่ก็อาจจะใช้เป็น Wireless Access Point เพียวๆ ไปเลย ซึ่งในการเซ็ตอัพอุปกรณ์ต่างๆ ที่กล่าวมาเหล่านี้นั้น ทางผู้ผลิตตัวอุปกรณ์จะให้ทำการเซ็ตอัพผ่านหน้าเว็บซึ่งจะต้องมีการใส่ชื่อและรหัส (username&password) ก่อนที่จะทำการเข้าไปเปลี่ยนค่าต่างๆ ได้ [คำไม่พึงประสงค์] username และ password ที่ว่านี่แหละครับ ที่ควรจะทำการเปลี่ยนไปจากค่าที่โรงงานตั้งให้ เพราะส่วนใหญ่แล้วเวลาที่ Hacker จะเจาะระบบก็จะใช้ default username และ default password เหล่านี้  ในการลองผิดลองถูกเป็นอันดับแรก? …. แล้วคุณหละ เปลี่ยนหรือยัง?
    
     2. เปิดฟังก์ชั่นการเข้ารหัสแบบ WPA/WEP ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตามครับจะต้องมีการเข้าหรัส (encryption) ซึ่งโดยหลักการง่ายๆ ก็คือว่าข้อมูลที่ถูกส่งไปมาอยู่บนอากาศนั้นจะถูกเข้าหรัสก่อนเพื่อไม่ให้ใครก็ตามที่ไม่หวังดีขโมยข้อมูลไปซึ่งก็จะเป็นข้อมูลที่อ่านไม่รู้เรื่องเพราะโดนเข้ารหัสไว้ ดังนั้นคุณก็ควรที่จะทำการเข้ารหัสที่ว่านี้ไว้ด้วยนะครับ ซึ่งในทุกๆ ครั้งเมื่อเราต้องการที่จะทำการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย เราก็จะต้องทำการใส่รหัสที่ว่านี้ด้วยครับ หรือถ้าเรามีการบันทึกไว้ที่เครื่องของเราอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใส่รหัสที่ว่านี้ครับ อ้อ … ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบ WPA นะครับ จะปลอดภัยกว่า WEP
 
     3. เปลี่ยนค่า SSID จากค่ามาตรฐาน SSID ย่อมาจากคำว่า Service Set Identify หรือบ้านเราก็เรียกกันง่ายๆ ว่าชื่อเสา wireless นั่นแหละครับ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าปกติของชื่อนี้จะถูกเรียกตามชื่อของยี่ห้อสินค้าครับ เช่น NETGEAR ก็จะตั้ง SSID ของอุปกรณ์ทุกตัวว่า NETGEAR เช่นเดียวกัน จริงอยู่ครับที่การรู้ชื่อ SSID นั้นไม่ได้หมายความว่าใครก็ตามจะเจาะเข้ามาใช้ระบบคุณได้ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นครับ! เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครบางคนค้นหาและเจอ default SSID เค้าจะเห็นได้ทันทีว่าระบบของคุณเป็นระบบที่หละหลวมและอาจจะง่ายต่อการเจาะระบบไงหละครับ … เปลี่ยนมันเถอะครับ ดีกว่า
     4. เปิดฟังก์ชั่น MAC Address Access Control อุปกรณ์แต่ละตัวที่มีระบบ IP จะต้องมีหมายเลขอยู่หนึ่งชุดที่ใช้ในการระบุตัวตน ภาษาอย่างเป็นทางการเค้าจะเรียกว่า “MAC Address” หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “Hardware Address” หรือ “Physical Address” ก็ได้นะครับ ซึ่งในอุปรณ์ wireless จำพวก All-in-One, Wireless Router หรือ Wireless Access Point จะมีฟังก์ชั่นสำหรับตรวจสอบหมายเลข MAC Address ดังกล่าวว่า เพื่อที่จะอนุญาติให้เฉพาะหมายเลขที่เราต้องการ ใช้งานระบบเครือข่ายของเราได้ …. ฟังก์ชั่นนี้แหละครับที่เค้าเรียกว่า MAC Address Access Control ซึ่งถ้าเราเปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้ เราก็จะสามารถสร้างความปลอดภัยได้เพิ่มขึ้นมาจากการเปิดฟังก์ชั่น WPA/WEP Encryption 
     
     5. ปิดฟังก์ชั่นการกระจายสัญญาณค่า SSID (SSID Broadcast) จำได้ใช่ไหมครับว่า SSID มันคือชื่อของเสาสัญญาณไร้สายนั่นเอง ซึ่งถ้าเราปิดฟังก์ชั่นการกระจายค่า SSID แล้วหละก็ เวลาที่ใครเค้าค้นหาเสาสัญญาณก็จะไม่เห็น SSID ของเรายังไงหละครับ และถ้าเวลาที่เราการเชื่อมต่อ ก็เพียงแต่ให้เรากรอกค่า SSID ที่เราได้เซ็ตอัพไว้เท่านั้นแหละครับ วิธีนี้ก็ถือเป็นวิธีที่ดีอีกหนึ่งวิธีครับ

     6. ใช้ Static IP แทน Automatic IP ให้กับอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายระบบเครื่อข่ายทั่วไปโดยปกติแล้วจะใช้ระบบ automatic IP โดยมีตัว DHCP เป็นตัวจ่าย IP ไปให้กับเครื่องทุกเครื่องในระบบ แต่โชคร้ายที่ฟังก์ชั่นนี้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้จู่โจมระบบของคุณไงครับ เพราะเพียงแค่เชื่อมต่อเข้ามาได้แล้วก็ได้รับ IP ไปง่ายๆ สบายอุราเลย ดังนั้น ถ้าเครื่องในระบบเครื่อข่ายไม่เยอะนัก การใช้ static IP ก็น่าจะทำให้ระบบมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับนะครับ
     7. วางตัว Wireless Router หรือ Access Point ให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยหลายคนอาจจะงงว่ามันเกี่ยวกันด้วยเหรอ? ลองฟังคำตอบดูนะครับ … ในปัจจุบันนี้ระยะทางของสัญญาณไร้สายจะครอบคลุมได้ในระดับนึงใช่ไหมครับ ดังนั้นหากว่าเราวางตัวอุปรณ์ไว้ไกล้ๆ หน้าต่างหรือประตูบ้านแล้วหละก็ คนทั่วๆ ไปที่อยู่ตามท้องถนนหรืออยู่ข้างบ้านของคุณก็อาจจะค้นหาสัญญาณไร้สายของคุณเจอและพยายามทำการเชื่อมต่อเข้ามา แต่ถ้าเราเอาตัวอุปกรณ์กระจายสัญญาณไปวางไว้ในจุดกึ่งกลางของพื้นที่ที่เราต้องการ คนที่อยู่นอกบ้านเราอาจจะเห็นสัญญาณอ่อนๆ หรือแทบจะไม่มีสัญญาณเลยไงหละครับ นี่จึงเป็นอีกวิธีที่จะทำให้ระบบเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเป็นอุปกรณ์Wireless Access Point สำหรับ Business Series นะครับ เค้าจะมีฟังก์ชั่น Adjust Power Transmition?ติดมาด้วยครับ ซึ่งเราสามารถเซ็ตได้เลยแหละว่าจะให้ปล่อยสัญญาณความแรงขนาดไหน  เช่น?100%, 75%, 50% หรือ 25%  เป็นต้น
     8. ปิดระบบต่างๆ ถ้าไม่ได้ใช้นาน แน่นอนที่สุดครับ ถ้าเราไม่ได้ใช้ก็ปิดมันซะ … แล้วใครจะมา hack ได้หละ ในเมื่อเราปิดมัน กั๊กๆๆ
     9. สุดท้ายก็คือต้องทำตามทั้ง 8 ข้อที่บอกมาครับอาจจะไม่ต้องทั้งหมด ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเราเอง ซึ่งก็แน่นอนแหละครับ เมื่อระบบความปลอดภัยมากขึ้น ความยุ่งยากต่างๆ ก็ต้องตามมาด้วย เป็นเรื่องปกติครับ ต้องเลือกเอา …

Credit : หนึ่งออนไลน์.คอม